เผยแก้แฮ้งค์ วิธีแก้อาการ “เมาค้าง” ให้ได้ผล จากการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เคยสงสัยกันหรือไม่ว่าทำไมเวลาที่เราดื่มแอลกอฮอล์เข้าไปหลังจากที่เริ่มเมาได้ที่ พอนอนหลับไปตื่นเช้ามาต้องมีอาการเมาค้างชวนทรมานกันด้วย ทำไมไม่เมาตั้งแต่เมื่อคืนแล้วจบ ยังตามมาเมาเพิ่มในวันรุ่งขึ้นอีกทำไม? มารู้จักอาการเมาค้างให้มากขึ้นผ่านบทความนี้พร้อมกับวิธีป้องกัน สำหรับสายปาร์ตี้แล้วนี่เป็นบทความที่คุณพลาดไม่ได้เลยทีเดียว
อาการเมาค้างหลังจากดื่มแอลกอฮอล์นั้นเกิดจากการที่ร่างกายมีการขับของเสียออกไปในรูปแบบของปัสสาวะ ลองนึกภาพเวลาที่เราดื่มเหล้า เบียร์ หรือเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อื่น ๆ สิ่งที่เกิดขึ้นคือเราจะรู้สึกปวดปัสสาวะมากขึ้น เป็นเพราะแอลกอฮอล์ที่ดื่มเข้าไปนั้นเข้าไปกระตุ้นให้ร่างกายผลิตปัสสาวะมากขึ้น ทำให้ผู้ดื่มต้องปัสสาวะบ่อยครั้ง
ด้วยเหตุนี้เอง นอกจากน้ำที่ถูกขับออกจนทำให้ร่างกายขาดน้ำแล้ว ยังเป็นการขับสารอาหารต่าง ๆ ที่จำเป็นต่อร่างกายออกไปด้วย ไม่ว่าจะเป็นแมกนีเซียม โพแทสเซียม วิตามินบี 1 วิตามินบี 6 ฯลฯ ทำให้เกิดการคั่งค้างของแอลดีไฮด์ภายในร่างกาย ส่งผลต่อการลดปริมาณน้ำตาลในเลือดและรบกวนการทำงานของฮอร์โมนเมลาโทนิน อาการปวดศีรษะหรือแฮงก์จึงเกิดขึ้นได้ในที่สุด
จากข้อมูลข้างต้น จะเห็นได้ว่าอาการแฮงก์นั้นมีความเกี่ยวข้องกับปัจจัยหลัก ๆ 2 ข้อ ได้แก่ 1. ร่างกายขาดน้ำ และ 2. ร่างกายขาดวิตามินและแร่ธาตุอันเนื่องมาจากการปัสสาวะที่บ่อยครั้งเกินไป วิธีแก้อาการแฮงก์จึงต้องเข้าจัดการที่ต้นตอของปัญหา นั่นก็คือการเติมน้ำให้เพียงพอ และการเติมวิตามินและสารอาหารที่ร่างกายขับออกไปนั่นเอง
ดังนั้นสำหรับคนที่นอนตื่นมาแล้วมีอาการแฮงก์ ให้รู้ไว้เลยว่าร่างกายกำลังขาดน้ำ วิธีแก้พื้นฐานที่ง่ายที่สุดเลยก็คือ “ไปดื่มน้ำซะ” เพื่อชดเชยน้ำที่ร่างกายขับออกไปตอนที่คุณกำลังดื่มแอลกอฮอล์
นอกจากนี้ยังต้องเติมสารอาหารที่ถูกขับออกไปด้วย โดยเฉพาะในกลุ่มของวิตามินบีที่มีส่วนช่วยในการทำงานของระบบประสาทและสมองโดยตรง รวมถึงสารอาหารที่เป็นประโยชน์ต่อตับ เนื่องจากตับทำหน้าที่หลักในการขับแอลกอฮอล์ออกจากร่างกาย เมื่อต้องเผชิญกับภาวะแอลกอฮอล์เข้าสู่ร่างกายมาก ๆ ประสิทธิภาพในการกำจัดแอลกอฮอล์ก็จะลดลงไปได้เช่นเดียวกัน
โดยสรุปก็คือนอกเหนือจากการดื่มน้ำให้เพียงพอหลังจากตื่นนอนแล้ว ควรเสริมสารอาหารที่ช่วยดูแลตับโดยเฉพาะเพื่อคืนประสิทธิภาพการทำงานให้กลับมาสมบูรณ์ อาการแฮงก์ก็จะค่อย ๆ ดีขึ้นอย่างรวดเร็วและกลับมาเป็นปกติได้ไม่ยาก
ด้วยความปรารถนาดี
ดูแลตับให้แข็งแรงด้วย เพื่อการดูแลตับแบบครบวงจร รวมสารอาหาร สารสกัดจากธรรมชาติ วิตามินและแร่ธาตุมากถึง 20 ชนิด เพื่อบำรุง ปกป้อง และฟื้นฟูการทำงานของตับอย่างครบวงจร
– กรดอะมิโน 14 ชนิด และกรดอะมิโนแบบสายยาว (Branched Chain Amino Acids; BCAA) ที่ช่วยเสริมสร้างการเกิดเซลล์ตับใหม่ ช่วยสร้างโปรตีนและมวลกล้ามเนื้อ
– วิตามินบี 2 จำเป็นต่อเอนไซม์และกระบวนการสร้างของสารอาหารต่าง ๆ มีส่วนช่วยในการบำรุงตับ
– เคอร์คูมินและวิตามินอี เกราะป้องกันตับไม่ให้ถูกทำลาย ช่วยต้านอนุมูลอิสระ ต้านการอักเสบ และลดภาวะ Oxidative Stress ที่เป็นสาเหตุของการทำลายตับ
– อิโนซิทอลและโคลีน เป็นส่วนประกอบของเยื่อหุ้มเซลล์ตับ ช่วยฟื้นฟูการทำงาน ลดการเกิดนิ่วในถุงน้ำดี เร่งกระบวนการเผาผลาญไขมันในตับ และลดคอเลสเตอรอล
– ซิลิเนียม เอนริชส์ ยีสต์ ช่วยซ่อมแซมและฟื้นฟูการทำงานของตับ ต่อต้านอนุมูลอิสระ กระตุ้นการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน